Category: Link

หากจะพูดถึงนวัตกรรมเสริมความงามที่ได้รับการนิยมในการลดเลือนริ้วรอย กระชับใบหน้า ปรับรูปหน้าให้ดูเรียวสวย นอกจากโบท็อกซ์แล้วอีกหนึ่งวิธีที่ฮิตที่สุดก็คงจะต้องเป็นเมโสแฟตลดแก้มแน่นอน ที่มีรีวิวมากมายยืนยันว่าช่วยปรับรูปหน้าและแก้ปัญหาใบหน้าใหญ่ไม่สมส่วนจนขาดความมั่นใจได้อย่างเห็นผลเลยทีเดียว

วันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยให้สาว ๆ ที่กำลังคาใจว่า เมโสแฟตลดแก้มนั้นคืออะไร ต่างกับโบท็อกซ์อย่างไร แล้วเหมาะกับใครบ้าง มาดูไปพร้อม ๆ กันเลย

เมโสแฟตลดแก้ม คืออะไร

การฉีดเมโสแฟตนั้นคือการฉีดตัวยาที่มีคุณสมบัติในการสลายไขมันเข้าไปในบริเวณที่มีไขมันสะสม ไม่ว่าจะเป็นบริเวณแก้ม กรอบหน้า หรือใต้คาง เมื่อได้รับตัวยาเข้าไปแล้ว ยาจะทำหน้าที่สลายไขมันให้แตกตัว และร่างกายก็จะขับไขมันออกด้วยวิธีตามธรรมชาติ ทำให้บริเวณที่ฉีดดูเล็กลงและดูกระชับยิ่งขึ้น นิยมในการนำมาลดปัญหาใบหน้าใหญ่ ใบหน้าไม่ได้รูป ให้ดูเรียวสวยยิ่งขึ้น 

การฉีดเมโสแฟตลดแก้ม ต่างจากการฉีดโบท็อกซ์อย่างไร

สำหรับการฉีดโบท็อกซ์นั้น คือการฉีดตัวยาที่มีคุณสมบัติทำให้กล้ามเนื้อคลายตัวเข้าไปในบริเวณที่มีริ้วรอย มักใช้กับริ้วรอยที่เกิดจากการแสดงสีหน้า หรือริ้วรอยที่เกิดขึ้นตามวัย เช่น ริ้วรอยหางตา ร่องแก้ม และมุมปาก ที่ทำให้ใบหน้าดูมีอายุ เมื่อฉีดเข้าไปแล้วกล้ามเนื้อบริเวณนั้นจะคลายตัวและไม่เกิดริ้วรอยเมื่อมีการแสดงสีหน้า ทำให้ใบหน้าดูเต่งตึงและดูอ่อนกว่าวัย 

ซึ่งสรุปได้ว่าการฉีดโบท็อกซ์นั้นจะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาริ้วรอย หรือต้องการปรับรูปหน้าที่ใหญ่เพราะกล้ามเนื้อ แต่เมโสแฟตนั้นจะเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาไขมันสะสมนั่นเอง

การฉีดเมโสแฟต เหมาะกับใครบ้าง

สำหรับการฉีดเมโสแฟตลดแก้มนั้นจะเหมาะกับสาว ๆ ที่มีปัญหาไขมันสะสมบริเวณแก้มและกรอบหน้า จนทำให้ใบหน้าดูกลมหรือดูใหญ่จนขาดความมั่นใจ ซึ่งการฉีดเมโสแฟตสลายไขมันเข้าไปจะช่วยทำให้ไขมันสลายตัว บริเวณที่ฉีดดูเล็กลง และใบหน้าดูเรียวเล็กยิ่งขึ้น 

นอกจากการฉีดเมโสแฟตลดแก้มแล้ว สามารถฉีดได้บริเวณไหนอีกบ้าง

การฉีดเมโสแฟตนั้นเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมเพราะสามารถฉีดสลายไขมันได้หลายส่วน นอกจากการลดแก้มแล้วยังสามารถฉีดเพื่อลดไขมันที่สะสมบนจุดต่าง ๆ ของใบหน้า เช่น หนังตาบนที่ทำให้ตาดูอ่อนล้า จมูกเพื่อปรับให้ดูเรียวเล็ก ใต้คางที่มีไขมันสะสม ทำให้กรอบหน้าดูกระชับ และยังสามารถฉีดได้ตามบริเวณต่าง ๆ ของร่างกายที่มีไขมัน เช่น หน้าท้อง ต้นขา ต้นแขน และน่องอีกด้วย ซึ่งสำหรับใครที่มีไขมันสะสมตามบริเวณเหล่านี้แล้วไม่สามารถสลายได้ด้วยการออกกำลังกายหรือต้องการที่จะดูแลให้เห็นผลไว้ การฉีดเมโสแฟตนั้นตอบโจทย์เป็นอย่างมากเลยทีเดียว

การส่งของหรือเอกสารไปต่างประเทศ แม้ว่าจะเป็นเรื่องง่าย และสามารถติดตามพัสดุได้ง่ายกว่าในสมัยก่อน แต่ก็ยังปรากฏว่ามีเอกสารหล่นหายอยู่บ่อย ๆ และสำหรับผู้ที่ต้องการส่งเอกสารไปต่างประเทศให้ไวและถึงชัวร์ เรามีเคล็ดลับง่าย ๆ มาฝากกัน 

1. จ่าหน้าซองให้ชัดเจน

สิ่งสำคัญในการส่งเอกสารไปต่างประเทศ รวมถึงในประเทศด้วยก็คือ การจ่าหน้าซองให้มีความชัดเจน มีชื่อผู้รับ เบอร์โทรศัพท์ ที่อยู่ที่มีรายละเอียดของรหัสไปรษณีย์ ประเทศ จังหวัด เมือง ถนน และเลขที่บ้านที่ถูกต้อง ชัดเจน เขียนด้วยตัวอักษรที่อ่านง่าย และที่สำคัญคือ จะต้องเป็นปากกาหรือหมึกแบบกันน้ำ หรือติดสติกเกอร์ใสทับที่อยู่ที่จ่าหน้าซองเอาไว้ เพื่อป้องกันความชื้นและความเสียหายในช่วงหน้าฝน

การจ่าหน้าซองที่ชัดเจนและถูกต้องจะช่วยให้การคัดแยกแยกเอกสารเป็นไปด้วยความรวดเร็ว และไม่ถูกตีกลับในกรณีที่ไม่พบผู้รับนั่นเอง

2. เลือกรูปแบบบริการที่ต้องการ

บริการส่งเอกสารไปต่างประเทศจะมีบริการตามความด่วนและความสำคัญของเอกสารที่เราต้องการส่ง ซึ่งเราสามารถสอบถามผู้ให้บริการได้ว่า มีบริการแบบไหนบ้าง ซึ่งจะมีทั้งบริการแบบธรรมดา แบบด่วน และแบบด่วนพิเศษ โดยจะมีราคาที่แตกต่างกันออกไปตามความรวดเร็วในการส่ง พูดง่าย ๆ ก็คือยิ่งส่งถึงมือผู้รับเร็ว ก็จะยิ่งมีราคาแพงมากเท่านั้น ซึ่งเราต้องพิจารณาตามความเหมาะสมว่าความต้องการของเราคืออะไร หากว่าเราไม่รีบมาก แต่อยากประหยัดงบประมาณ เราสามารถใช้บริการที่มีราคาย่อมเยา แต่ส่งถึงช้าหน่อยก็ได้เช่นเดียวกัน 

3. เลือกบริษัทขนส่งที่น่าเชื่อถือ

อีกเรื่องหนึ่งที่เราไม่สามารถละเลยได้เลยก็คือ ชื่อเสียงและคุณภาพของบริษัทขนส่งที่เราใช้บริการ เป็นเรื่องโชคดีที่ในปัจจุบัน เรามีตัวเลือกในการส่งเอกสารไปต่างประเทศหลากหลายแห่ง ซึ่งเราสามารถตรวจสอบความน่าเชื่อถือได้จากรีวิวของผู้ที่เคยใช้งานจริง หรือหากว่ายังไม่แน่ใจก็ลองโทรไปสอบถามเพิ่มเติมได้เช่นเดียวกัน 

การเลือกบริษัทที่น่าเชื่อถือ และมีคุณภาพ จะเป็นเครื่องการันตีไปแล้วครึ่งหนึ่งว่า การส่งเอกสารไปต่างประเทศของเราจะปลอดภัย และถึงมือผู้รับอย่างแน่นอน 

4. อย่าลืมแพ็กเอกสารให้แน่นหนา 

อย่าลืมว่าเราส่งเอกสารไปต่างประเทศ ซึ่งจะต้องผ่านหลายด่าน หลากหลายสภาพอากาศ ทำให้เราต้องคิดเผื่อหลายอย่าง โดยเฉพาะความชื้น ทางที่ดีแนะนำให้ใส่ซองพลาสติกอีกชั้นเพื่อความปลอดภัยในการส่งเอกสาร โดยเฉพาะหากว่าเป็นเอกสารที่มีความสำคัญ ไม่เช่นนั้นเอกสารของเราอาจจะเสียหาย แม้จะถึงมือผู้รับ แต่ก็ไม่สามารถใช้งานได้อยู่ดี ซึ่งก็เท่ากับเราจะต้องส่งเอกสารไปใหม่อีกครั้งหนึ่งนั่นเอง 

นี่คือเคล็ดลับง่าย ๆ ในการส่งเอกสารไปต่างประเทศให้ถึงมือผู้รับอย่างรวดเร็ว ปลอดภัย ไร้กังวล

“พระพิฆเนศ” เป็นเทพเจ้าฮินดู ซึ่งขึ้นชื่อว่าเป็นเทพเจ้าแห่งความสำเร็จ สมหวังสมดังที่ปรารถนา จึงมีผู้บูชาพระพิฆเนศในรูปแบบต่าง ๆ กันอย่างล้นหลาม เพื่อเสริมดวงชะตาชีวิตให้ทำอะไรก็ไร้อุปสรรค และสามารถประสบความสำเร็จได้โดยง่าย วันนี้เราเลยจะพาทุกคนมาส่องราคาพระพิฆเนศแบบที่ปลุกเสกแล้วพร้อมบูชา ที่เพิ่มเติมมาคือมีดีไซน์ปางต่าง ๆ ที่โมเดิร์นยิ่งขึ้น เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ชอบความมินิมอล จะมีของเจ้าไหนบ้าง ไปดูกันเลย 

ขอบคุณภาพจาก KARAVA.com

KARAVA

ถ้าพูดถึงแบรนด์ที่ผสมผสานความมูเข้ากับยุคสมัยได้อย่างดีเยี่ยม เราก็ต้องพูดถึงแบรนด์ KARAVA THAILAND ที่มีการออกแบบองค์พระพิฆเนศที่สวยงาม คงความศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ได้อย่างครบถ้วน ที่สำคัญคือ มีดีไซน์มีสวยงามตระการตา ถูกอกถูกใจคนยุคใหม่ สามารถวางบูชาภายในบ้านได้กลมกลืนกับบ้าน ไม่ดูโดดเหมือนกับรูปแบบเก่า ๆ ซึ่งราคาพระพิฆเนศของ KARAVA จะอยู่ที่ประมาณ 9,888 บาท ซึ่งการเปิดจองจะเปิดให้จองเป็นช่วง ๆ ผู้ที่สนใจจะต้องติดตามที่หน้าร้านออนไลน์

แน่นอนว่าด้วยความที่เป็นแบรนด์ที่เน้นการบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์อย่างครบถ้วน ราคาพระพิฆเนศนี้จึงเป็นราคาที่รวมกับค่าเบิกเนตร โดยทำพิธีถูกต้องตามหลัก ผู้ที่เช่าไปบูชาไม่ต้องกังวลว่า จะเน้นแต่ความสวยงามอย่างเดียว แต่ขาดพิธี เพราะ KARAVA จัดให้แบบเต็ม ๆ ครบทุกด้านที่ต้องการ ไม่ว่าจะด้านสวยงาม หรือด้านความศักดิ์สิทธิ์ 

VASANA

สำหรับแบรนด์ที่ทำหินมงคล ที่เคยเน้นเรื่องของสร้อยข้อมือมงคลที่ช่วยเสริมดวงชะตาให้กราฟชีวิตพุ่งแรง อย่าง VASANA ก็จับมือกับ Shinee jewellery จัดทำพระพิฆเนศแบบตั้งบูชา ดีไซน์มินิมอลตะมุตะมิน่ารักไม่ซ้ำแบบใคร ขนาดองค์ไม่ใหญ่มาก มิหนำซ้ำยังมากันเป็นเซต เพราะมีพระศิวะ พระแม่อุมา พระแม่ลักษมีพ่วงมาด้วย ใครมาสายนี้รับรองว่าถูกใจแน่นอน ราคาพระพิฆเนศของ VASANA องค์ละ 489 บาท 

สำหรับพระพิฆเนศของ VASANA จะมีขนาดเล็ก เหมาะสำหรับการตั้งบนโต๊ะทำงาน หรือผู้ที่มีพื้นที่จำกัด และด้วยราคาพระพิฆเนศที่ค่อนข้างย่อมเยา ผ่านการปลุกเสกแล้ว จึงเป็นที่ถูกอกถูกใจใครต่อหลายคน 

องค์พ่อพระพิฆเนศ Lord Ganesh 

สำหรับร้านนี้เป็นร้านที่เน้นความมินิมอลตะมุตะมิขององค์พระพิฆเนศเช่นเดียวกัน ออกแบบเป็นองค์ขนาดเล็ก สามารถตั้งที่โต๊ะทำงาน มุมต่าง ๆ ของบ้าน หรือแม้แต่ในรถได้อย่างไม่ขัดเขิน ราคาพระพิฆเนศของเจ้านี้ก็เริ่มต้นเบา ๆ ที่ประมาณ 600++ บาท ซึ่งราคาพระพิฆเนศที่ออกมาแต่ละรุ่นก็จะมีความแตกต่างกันออกไป 

นอกจากจะมีองค์พระพิฆเนศให้เช่าแล้ว ยังมีบริวารอย่างหนูมุสิกะ ขนมโมทกะ – ขนมลาดู ซึ่งเป็นขนมที่พระพิฆเนศโปรดปราน ใครสนใจก็สามารถเข้าไปตำกันได้เลย

นี่คือราคาพระพิฆเนศที่เรานำมาฝากกัน ซึ่งแต่ละร้านก็มีสไตล์มินิมอล โมเดิร์น ไม่ซ้ำกับแบบเดิม ๆ วางในบ้านหรือที่โต๊ะทำงานก็ดูไม่ขัดตา 

Train with an Online Fitness Coach at Home

Many people would prefer to exercise at home rather than in a fitness center. The problem is that exercising at home provides many distractions that can keep you from reaching your health and fitness goals. Luckily, there’s now an online fitness coach that understands people’s preference for staying at home rather than spending time in a fitness center or gym. 

Covid is still with us, and people are acutely aware of being in a closed space with strangers. A typical gym or fitness center can be even less inviting, as these centers can have people exercising and breathing heavily while not wearing masks. Add in the waits for certain popular machines and the costs of maintaining a gym membership, and it’s no wonder many people would prefer to exercise in the comfort of their own homes. 

But the needs of family members and other household distractions can slow down or even halt your fitness progress. It becomes too easy to simply tell yourself that you’ll exercise later when you’re not surrounded by other people exercising and providing inspiration. 

Be Fit with Jess

There’s now an online fitness coach in Thailand who understands the struggles of people trying to get in shape in their own homes. She recognizes that what these home fitness people need are support and coaching. 

Jessica Cuny, nicknamed “Jess,” is an online fitness coach for women. She provides exercise programs and customized nutrition plans designed for her client’s age, weight, height, and lifestyle. Signing up for one of her programs enables you to access expert advice and guidance on an unlimited basis. Rather than holding exercise classes in a venue that requires you to travel every day, she uses the internet to keep in close contact with her clients. 

How it Works

Choose either a one-month program to try it out and get you started or a three-month or six-month program for people who are committed to improving their health and fitness. 

You’ll receive a personalized meal and workout plan and a follow-up every two weeks. You’ll have full access to the many YouTube exercise videos Jess has made. Most importantly, you’ll have access to a consultant for the duration of your program. The consultant can act as your coach and inspire you to get off the couch and start exercising, or they can answer any question about your diet or exercise routine. They’ll also help you deal with any problems you may encounter along the road to achieving your ultimate fitness goals.

Jess has inspired many women in Thailand to explore cardio and weight training exercises as a way to improve health and fitness. They’ve been able to set out on the road to achieving their goals without having to leave the comfort of their home.  

If it’s always been your goal to get in shape and stay that way, consider doing it from home with the help of a program from BefitwithJess. 

ในการทำแบรนด์ขายสินค้าสักชิ้น โดยเฉพาะจำพวกของกิน สิ่งที่สำคัญคือบรรจุภัณฑ์ เพราะเป็นสิ่งแรกที่ผู้คนจะมองเห็น อีกทั้งยังทำหน้าที่ปกป้องสินค้าของเรา ซึ่งวันนี้เราจะมาแนะนำ กระปุกพลาสติก PP ซึ่งเป็นหนึ่งในรูปแบบบรรจุภัณฑ์ยอดนิยม โดยกระปุกพลาสติก PP มีประโยชน์อย่างมากในชีวิตประจำวัน โดยเฉพาะในเรื่องการเก็บรักษาและขนส่งสินค้า เนื่องจากมีลักษณะที่แข็งแรง ทนทานต่อการแตกร้าวและรั่วไหล และมีความคงทนต่อสารเคมีและสภาพอากาศ ทำให้เหมาะสมสำหรับการบรรจุเครื่องดื่ม อาหารแห้ง น้ำมัน และสิ่งของอื่นๆ

นอกจากนี้ กระปุกพลาสติก PP ยังมีความสามารถในการทนความร้อน ทำให้เหมาะสำหรับการใช้ในการเก็บรักษาอาหารที่ต้องใช้ความร้อน เช่น อาหารกระทะ ของทอด นอกจากนี้ยังสามารถนำมาใช้เก็บเครื่องสำอาง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ได้อีกด้วย

อีกทั้งยังมีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากกระปุกพลาสติก PP สามารถรีไซเคิลได้ และมีอายุการย่อยสลายที่สูงกว่าพลาสติกอื่นๆ ดังนั้นการใช้งานกระปุกพลาสติก PP จึงเป็นสิ่งที่ช่วยลดการใช้พลาสติกอื่นๆ ที่สร้างผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมได้ โดยสามารถแยกเหตุผลของการใช้กระปุกพลาสติก PP เป็นบรรจุภัณฑ์ได้ ดังนี้

• มีความทนทานต่อแรงกระแทกและการเปียกน้ำ

กระปุกพลาสติก PP มีความทนทานต่อแรงกระแทกและการเปียกน้ำมากกว่ากระปุกพลาสติกอื่นๆ เช่น PVC หรือ PET ซึ่งทำให้เหมาะสมกับการบรรจุสินค้าที่ต้องการความปลอดภัยและคงทนต่อสภาพแวดล้อมเช่นเดียวกับการขนส่งสินค้าไปยังสถานที่ต่างๆ

• มีความคงทนต่อสภาพอากาศ

กระปุกพลาสติก PP ไม่สลายตัวหรือถูกทำลายโดยสารเคมีหลายชนิด เช่น แสงแดด น้ำมัน และสารเคมีที่ใช้ในการทำความสะอาด เรียกได้ว่ามีความคงทนต่อสารเคมีเป็นพิเศษ

• มีราคาที่เหมาะสม 

กระปุกพลาสติก PP มีราคาที่เหมาะสมและถูกกว่ากระปุกพลาสติกอื่น ๆ ทำให้เป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับธุรกิจและผู้ประกอบการที่ต้องการลดต้นทุนการผลิตและแพ็กกิ้ง

• ง่ายต่อการรีไซเคิล

กระปุกพลาสติก PP เป็นวัสดุที่สามารถรีไซเคิลได้ง่ายและมีค่าใช้จ่ายต่ำ ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมสำหรับผู้ประกอบการที่ต้องการลดการใช้สารพิษและลดการสร้างขยะพลาสติก

แต่ถ้าหากใครยังไม่มั่นใจ เราก็มีเคล็ดลับการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ให้เลือกพิจารณาเพื่อให้ได้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับสินค้าและการใช้งานมาฝากกัน ดังนี้

• ควรเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีความเหมาะสมกับปริมาณและน้ำหนักของสินค้า เพื่อให้สามารถขนส่งและเก็บเข้าในพื้นที่จัดเก็บได้สะดวกและประหยัดต้นทุน
• ควรเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมกับลักษณะของสินค้า เช่น สินค้าเหลวควรใช้บรรจุภัณฑ์ที่ทนทานมีฝาปิดอย่างแน่นหนา เพื่อป้องกันการรั่วไหล สินค้าแห้งควรใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีความแข็งแรงเพียงพอและมีประสิทธิภาพในการป้องกันการเปียกน้ำหรือการแสดงออกซิเดชัน
• ควรพิจารณาลักษณะการขนส่งประกอบกับการเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่มีความแข็งแรงและทนทานต่อการขนส่ง 

ปัจจุบันจะเห็นได้ว่าเทคนิคและรูปแบบของการตลาดในช่องทางต่างๆ นั้นมีความเปลี่ยนแปลงไป จากแต่ก่อนที่มักจะพึ่งพาสื่อแบบออฟไลน์ ยกตัวอย่างเช่นสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ, ป้าย Billboard หรือการทำโฆษณาตามบูธต่างๆ แต่ในตอนนี้ทุกสิ่งกลับถูกย้ายขึ้นไปอยู่บนแพลตฟอร์มออนไลน์เสียแทบจะทั้งหมด ทุกสิ่งล้วนแล้วแต่จะไปปรากฏบนสื่อดิจิทัล ด้วยการใช้เครื่องมือติดต่อสื่อสารแบบอิเล็กทรอนิกส์ที่ทำให้ทุกคนสามารถติดต่อสื่อสารและเข้าถึงกันได้อย่างง่ายดาย แต่ทั้งนี้อีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญของการตลาดเชิงดิจิทัล หรือ Digital Marketing นั้นก็ย่อมประกอบไปด้วย Digital Agency ในไทยที่อยู่ในฐานะของผู้เชี่ยวชาญทางด้านนี้โดยตรง แต่จะมีข้อดีหรือประโยชน์ใดๆ บ้าง ตามมาหาคำตอบกันต่อได้จากบทความนี้เลย

ปริมาณการลงทุนที่ไม่สูงมาก

ข้อดีและประโยชน์อันดับต้นๆ ที่ทำให้ธุรกิจส่วนใหญ่หันมาให้ความสนใจกับ Digital Agency ในไทยนั่นก็คือเรื่องของปริมาณการลงทุนที่ไม่ได้อยู่ในอัตราที่สูงมาก เมื่อเปรียบเทียบกับการลงทุนกับสื่อโฆษณาแบบออฟไลน์ อีกทั้งการลงทุนสร้างสื่อโฆษณาผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์นั้น หลายๆ ธุรกิจก็ยังเชื่ออีกว่า Digital Agency ในไทยนั้นสามารถนำมาซึ่งผลลัพธ์ของการทำโฆษณาที่ดีเยี่ยม ได้ประสิทธิภาพ สามารถเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างถูกจุด แน่นอนว่าถ้าหากรู้จักการวางแผนและผลิตสื่อโฆษณาที่สามารถใช้ได้ในระยะยาวก็จะยิ่งทำให้การลงทุนกับสื่อ หรือ Media ผ่านช่องทางออนไลน์ก็จะยิ่งคุ้มค่าเพิ่มมากขึ้นกว่าการลงทุนกับโฆษณาแบบออฟไลน์อย่างแน่นอน

การตลาดบนพื้นฐานของข้อมูล (Data-Driven)

อีกหนึ่งสิ่งที่เป็นการตอกย้ำว่า Digital Agency ในไทยนั้นสามารถวางแผนและทำการตลาดเชิงดิจิทัลเพื่อให้ได้มาซึ่งผลลัพธ์ที่แม่นยำและมีประสิทธิภาพนั่นก็คือเป็นการตลาดที่ตั้งต้นอยู่บนพื้นฐานของคำว่าข้อมูล กล่าวง่ายๆ ก็คือก่อนการวางแผนหรือตั้งโจทย์ใดๆ ก็แล้วแต่ในการตลาดนั้นจะต้องนำเอาข้อมูลดิบมาตั้งต้น หรือ Data-Driven เรียกได้ว่าเป็นประโยชน์ของเทคโนโลยีอย่างแท้จริง ทำให้นักการตลาดอย่างเราๆ สามารถวางแผนได้ถูกทางโดยอ้างอิงจากข้อมูลที่เป็นพฤติกรรมของลูกค้า เมื่อข้อมูลที่อยู่ในมือมีความน่าเชื่อถือมากเพียงพอแน่นอนว่าการวางแผนย่อมนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่แม่นยำและตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมายเพิ่มมากขึ้น

ในท้ายที่สุดแล้วสิ่งที่จะตอบโจทย์และทำให้ Digital Agency ในไทยได้รับการยอมรับมากยิ่งขึ้นจากการตลาดเชิงดิจิทัลนั่นก็คือเป็นสื่อโฆษณาที่สามารถเผยแพร่และเข้าถึงลูกค้าได้ทุกที่ ทุกเวลา จากทุกอุปกรณ์ ขึ้นอยู่กับความพึงพอใจว่าลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายจะเลือกเปิดรับสื่อในวันและเวลาไหน นอกเหนือไปจากนั้นนักการตลาดเองยังสามารถเก็บข้อมูลที่เป็นตำแหน่งของกลุ่มเป้าหมาย เพื่อให้การวางแผนทำการตลาดในลำดับถัดไปเป็นไปอย่างแม่นยำมากยิ่งขึ้นนั่นเอง

ในปัจจุบันสำหรับคนที่ประสบกับภาวะมีบุตรยาก อาจไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป เพราะมีนวัตกรรมใหม่ ๆ ที่ช่วยเพิ่มโอกาสในการมีบุตรให้กับครอบครัวที่มีภาวะมีบุตรยากได้มากขึ้น ซึ่งที่เรากำลังพูดถึงกันนี้คือการทำ IVF (In-Vito Fertilization) และการทำ ICSI (Intracytoplasmic sperm injection) สำหรับใครที่สงสัยว่า IVF กับ ICSI ต่างกันอย่างไร? เราจะมาช่วยไขข้อสงสัยให้คุณ ตามไปดูในบทความของเรากันได้เลย

IVF กับ ICSI คืออะไร? ต่างกันอย่างไร?

ก่อนที่เราจะไปดูว่า IVF กับ ICSI ต่างกันอย่างไร? เราไปทำความรู้จักกับ IVF กับ ICSI กันดีกว่า

IVF (In-Vito Fertilization) คือ กระบวนการทางการแพทย์ที่ใช้ช่วยให้ครอบครัวที่ไม่สามารถมีบุตรได้ตามธรรมชาติ สามารถมีโอกาสมีบุตรได้ โดยเป็นกระบวนการในการคัดเอาอสุจิที่แข็งแรงของฝ่ายชายมาผสมกันกับไข่ของฝ่ายหญิง และทำให้เกิดการปฏิสนธิกันในหลอดแก้ว หลังจากนั้นจึงนำไข่ที่ผสมจนเป็นตัวอ่อนแล้วกลับไปฝังที่โพรงมดลูกของฝ่ายหญิง เพื่อให้ตัวอ่อนเจริญเติบโตในครรภ์ตามปกติ

ICSI (Intracytoplasmic sperm injection) คือ เป็นอีกหนึ่งกระบวนการทางการแพทย์ที่ใช้ช่วยให้ครอบครัวที่มีบุตรยาก สามารถมีโอกาสมีบุตรได้ แต่หากใครสงสัยว่า IVF กับ ICSI ต่างกันอย่างไร? ต้องขออธิบายว่า การทำ ICSI จะเป็นการคัดเอาตัวอสุจิที่มีความแข็งแรงที่สุด ด้วยการวิเคราะห์การเคลื่อนไหวของอสุจิผ่านกล้องจุลทรรศน์และฉีดเข้าไปยังไข่ที่คัดแล้วของฝ่ายหญิง ด้วยเข็มที่มีขนาดเล็กมาก เพื่อการฉีดอย่างเฉพาะเจาะจง จนเกิดการปฏิสนธิ แล้วหลังจากนั้นจะนำตัวไปเลี้ยงให้เติบโตจนถึงระยะที่ปลอดภัย และนำเข้าไปใส่ในโพรงมดลูกเพื่อให้มีการตั้งครรภ์ต่อไป

จากที่กล่าวมาคงพอไขข้อสงสัยได้แล้วว่า IVF กับ ICSI ต่างกันอย่างไร? ซึ่งสามารถสรุปง่าย ๆ ได้ว่า ทั้ง IVF กับ ICSI ต่างเป็นวิธีการทำให้เกิดการปฏิสนธิแบบเจาะจงได้มากกว่าแบบธรรมชาติ แต่สำหรับผู้ที่ประสบภาวะอสุจิไม่แข็งแรงเหมาะที่จะทำ ICSI โดย ICSI จะมีกระบวนการที่ค่อนข้างซับซ้อนกว่า และมีความเจาะจงมากกว่า รวมถึงมีค่าใช้จ่ายทางการแพทย์ที่สูงกว่า แต่เพิ่มโอกาสที่จะตั้งครรภ์ได้มากกว่านั่นเอง

เชื่อว่าหลายคนคงเข้าใจว่า IVF กับ ICSI ต่างกันอย่างไร? มากขึ้นแล้ว และสำหรับใครที่ยังลังเลว่าระหว่าง IVF กับ ICSI ควรเลือกวิธีการแบบไหนดี? ขอแนะนำว่าคุณควรเข้ารับการตรวจภาวะผู้มีบุตรยาก เพื่อให้แพทย์ผู้เชี่ยวชาญได้ทำการวิเคราะห์ว่าควรเลือกวิธีการแบบไหนที่จะเหมาะสม ปลอดภัย และมีโอกาสในการตั้งครรภ์ได้มากที่สุดสำหรับคุณ เพื่อให้คุณได้มีบุตรอย่างที่ใจต้องการ และเติมเต็มความเป็นครอบครัวให้สมบูรณ์มากยิ่งขึ้นต่อไป

ในยุคที่เทคโนโลยีเอื้อให้คนรุ่นใหม่สามารถเป็นเจ้าของธุรกิจตัวเองได้แบบง่าย ๆ ทั้งการสร้างหน้าร้านผ่านระบบออนไลน์ หรือการร่วมกับแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซต่าง ๆ ก็สามารถทำธุรกิจซื้อง่ายขายคล่องได้ตั้งแต่ที่บ้าน และเชื่อว่าหลายคนที่กำลังจะผันตัวไปเป็นพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ อาจจะกำลังเลือกว่าจะมีแพลตฟอร์มหรือแอปพลิเคชันไหนบ้างที่ช่วยให้งานขายของคุณปัง ๆ วันนี้เราขอแนะนำแพ็กเกจฟีเจอร์จาก LINE OA ที่รับรองว่า เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของคุณได้แน่นอน

ตอบโจทย์ 1 to 1 การตลาดแบบ Personalized Marketing 

แม้จะเป็นยุคที่เราติดต่อสื่อสารกับบุคคลมากมายมหาศาลได้ทั่วโลก แต่ผู้บริโภคกลับยิ่งต้องการการตลาดที่ตอบสนองแบบเฉพาะเจาะจงส่วนบุคคลมากยิ่งขึ้น ดังนั้น แพ็กเกจฟีเจอร์ LINE OA (Official Account) ยิ่งตอบโจทย์ลูกค้าที่มีช่องทางการสื่อสารแบบ 1-1 ที่สร้างความใกล้ชิดมากยิ่งขึ้นผ่านการแชตตัวต่อตัว

แพ็กเกจฟีเจอร์ Broadcast บน LINE OA เพื่อสร้าง Brand Awareness

ความพิเศษของ LINE OA นอกจากการแชตส่วนตัวกับลูกค้าที่เพิ่มเพื่อนเราแล้ว ยังมีฟีเจอร์การบรอดแคสต์ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นแบบข้อความ หรือวิดีโอ ที่ช่วยสื่อสารเรื่องราวที่แบรนด์ต้องการนำเสนอแก่ลูกค้าอย่างสม่ำเสมอได้ รวมไปถึงมีช่องทางให้ยิงโฆษณาบน LINE Ads Platform เพื่อสร้าง Awareness กระตุ้นให้เป้าหมายสนใจในตัวแบรนด์มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงมีแพ็กเกจพื้นที่โฆษณาใหม่ ๆ ใน LINE OA อย่าง LINE Today และ LINE Smart Channel ที่สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เพื่อสร้างฐานลูกค้าให้มาเพิ่มเพื่อนติดตาม หรือกระตุ้นยอดขาย ดึงดูดให้ลูกค้าเข้าไปซื้อสินค้าบนเว็บไซต์มากขึ้น 

ให้รางวัลและสร้างลูกค้าชั้นดี ผ่านแพ็กเกจ Loyalty program ของ LINE OA

หนึ่งในการตลาดที่เหล่านักมาร์เก็ตติ้งทั้งหลายคำนึงถึงอยู่เสมอ คือการรักษาฐานลูกค้าชั้นดีเอาไว้ และสร้างลูกค้าใหม่ ๆ ให้มีความชื่นชอบแบรนด์จนถึงขั้นภักดี ไม่เปลี่ยนใจไปแบรนด์อื่น หลายเทคนิคที่นำมาใช้คือ การให้รางวัล สิทธิพิเศษต่าง ๆ สร้างความรู้สึกให้ลูกค้ารู้ว่า คุณคือคนพิเศษสำหรับเรา ดังนั้น วิธีการอย่างให้การสะสมคะแนน คูปองส่วนลด สิทธิ์การดูสินค้ามาใหม่ได้ก่อนใคร จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ซึ่ง LINE OA ก็สามารถตอบโจทย์วิธีเหล่านี้ได้อย่างดีทีเดียว 

สร้างหน้าร้านผ่าน MyShop ฟีเจอร์สำคัญในตลาด LINE SHOPPING โดยเฉพาะ

แม้ LINE OA จะเป็นแอ็คเคาต์เฉพาะบุคคล หรือนิติบุคคล เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มลูกค้าที่เป็นเพื่อน แต่ในแอปฯ LINE นั้น ยังมี LINE SHOPPING ที่เป็นเสมือนตลาดกลางให้ LINE OA ต่าง ๆ มาเปิดหน้าร้านได้ ผ่านฟีเจอร์ MyShop ที่มีบริการหลากหลายเป็นตัวช่วยบริหารจัดการหลังร้านให้มีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้น เช่น ติด Tag แบ่งประเภทลูกค้า ทำให้คุณรู้จักลูกค้าแต่ละคนได้อินไซต์ยิ่งขึ้น หรือการออกออร์เดอร์ได้ทุกที่ ทุกเวลา และรับชำระเงินได้ทันที แถมทำให้คุณไม่พลาดเมื่อมีออเดอร์ใหม่ หรือมีลูกค้าติดต่อสอบถามแชตเข้ามา และหมดห่วงด้วยฟีเจอร์ Smart Bot ที่สามารถพูดคุยตอบโต้กับลูกค้า สรุปออเดอร์และปิดการขายได้ทันที ไม่ต้องรอให้คุณเป็นคนมาตอบด้วยตัวเอง

เมื่อรู้ถึงข้อดีของการขายของผ่าน LINE OA แล้ว แต่ยังไม่มีความรู้หรือเวลามากพอที่จะมาศึกษาแต่ละฟีเจอร์ให้ปรุโปร่ง พ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ทั้งหลายสามารถพุ่งเข้าทางลัด ด้วยการใช้บริการจากบริษัทรับติดตั้งและตั้งค่าหน้าร้าน ช่วยดูแลแอ็คเคาต์ของคุณให้เข้าถึงแพ็กเกจทุกฟีเจอร์สำคัญของ LINE OA ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ อย่างครบวงจร เริ่มตั้งแต่วันนี้ และพร้อมรับลูกค้าและออเดอร์ปัง ๆ ของคุณได้เลย

ยุคที่มลพิษมีอยู่ในทุกหนทุกแห่ง ทั้งน้ำและอากาศ จะหยิบจับอะไรเข้าปากถือเป็นเรื่องที่ต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง รวมทั้งเรื่องน้ำดื่มด้วยเช่นกัน ดังนั้นบริษัทรับตรวจคุณภาพน้ำดื่ม จึงเป็นบริการสำคัญที่โรงงานผลิตน้ำดื่มทุกแห่งต้องให้ความสำคัญ เพราะเป็นผู้ที่จะช่วยตรวจสอบคุณภาพน้ำดื่มก่อนจะวางจำหน่ายและส่งถึงมือผู้บริโภค สร้างความมั่นใจว่าสามารถดื่มได้โดยไม่ก่อให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพและปราศจากสารตกค้างนั่นเอง

บริษัทรับตรวจคุณภาพน้ำดื่มมีหน้าที่หลัก ๆ คือการตรวจสอบดัชนีคุณภาพน้ำโดยเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญ ซึ่งจะใช้อุปกรณ์และห้องปฏิบัติการที่ทันสมัย ได้มาตรฐานในการตรวจสอบอย่างละเอียด โดยมีดัชนีที่ต้องใช้ในการตรวจสอบคุณภาพน้ำดังต่อไปนี้

ลักษณะทางกายภาพ

สำหรับลักษณะทางกายภาพของน้ำดื่มนั้น จะได้รับการตรวจสอบทั้งเรื่องของอุณหภูมิ การนำไฟฟ้า ความขุ่น ความเป็นกรดและเป็นด่าง รวมทั้งสีของน้ำดื่มด้วย

ลักษณะทางเคมี

ลักษณะทางเคมีของน้ำดื่มที่ต้องได้รับการตรวจสอบ ได้แก่ ความกระด้างทั้งหมด ปริมาณแร่ธาตุต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นซัลเฟต คลอไรด์ ไนเตรท ฟลูออไรด์ เหล็ก ทองแดง แมงกานีส และธาตุอื่น ๆ และที่สำคัญ ก็คือค่า TDS (Total Dissolved Solids) หรือค่าความเข้มรวมของสารที่ละลายอยู่ในน้ำ ซึ่งค่า TDS นี่เองที่จะระบุว่าน้ำดื่มนั้นปลอดภัยต่อการบริโภคหรือไม่ โดยค่า TDS ของน้ำที่เหมาะกับการบริโภคคือ 50-150 PPM

ลักษณะทางชีวภาพ

ส่วนลักษณะทางชีวภาพของน้ำดื่มที่ต้องได้รับการตรวจคุณภาพ ได้แก่ ปริมาณแบคทีเรียทั้งหมดในน้ำดื่ม โคลิฟอร์มแบคทีเรีย ฟีคัลโคลิฟอร์มแบคทีเรีย และแบคทีเรียชนิดอื่น ๆ

สารที่เป็นพิษต่อร่างกาย

การดื่มน้ำที่มีสารพิษปนเปื้อนย่อมก่อให้เกิดอันตรายกับร่างกาย น้ำดื่มจึงต้องได้รับการตรวจปริมาณสารพิษชนิดต่าง ๆ ทั้งสารหนู ปรอท ตะกั่ว รวมทั้งสารกำจัดศัตรูพืชและสัตว์อย่างละเอียดด้วยเช่นกัน

แนะนำ 3 บริษัทรับตรวจคุณภาพน้ำดื่ม มั่นใจ ได้มาตรฐานชัวร์

ปัจจุบัน ในประเทศไทยมีบริษัทรับตรวจคุณภาพน้ำดื่มให้ผู้ประกอบการน้ำดื่มได้เลือกใช้หลากหลายแห่ง หากยังไม่รู้จะเลือกใช้บริการบริษัทไหน เรามี 3 บริษัทตรวจคุณภาพน้ำดื่มที่ได้มาตรฐานมาฝากกัน

1. Health and Envitech

บริษัทรับตรวจคุณภาพน้ำดื่มและสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ ทั้งดิน อากาศ กากอุตสาหกรรมแบบครบวงจร ประสบการณ์ยาวนานกว่า 27 ปี

2. SSC Oil Lab

บริษัทตรวจสอบคุณภาพน้ำ รับวิเคราะห์ครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการวิเคราะห์น้ำดี น้ำเสีย น้ำดื่ม ผลวิเคราะห์แม่นยำ ประสบการณ์มากกว่า 10 ปี

3. SIAM ECO LAB

บริการตรวจวิเคราะห์คุณภาพน้ำ และจัดทำผลการวิเคราะห์ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อม วิเคราะห์ทั้งความเป็นกรด-ด่าง ลักษณะทางกายภาพและเคมี รวมทั้งปริมาณจุลินทรีย์ในน้ำ

เลือกใช้บริษัทรับตรวจคุณภาพน้ำดื่มที่ได้มาตรฐาน สร้างความมั่นใจให้ผู้บริโภคว่าน้ำดื่มที่วางจำหน่ายมีความปลอดภัย สามารถดื่มได้โดยไร้ความกังวลเรื่องสารปนเปื้อนอย่างแท้จริง