
‘มะเร็งปากมดลูก’ เป็นโรคร้ายแรงที่พบบ่อยในผู้หญิงไทย สาเหตุของมะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อเอชพีวี (Human Papillomavirus) ซึ่งเป็นเชื้อติดต่อทางเพศสัมพันธ์ อาการของมะเร็งปากมดลูกในระยะแรกอาจไม่แสดงอาการใดๆ เลย แต่อาการมะเร็งที่บริเวณปากมดลูกมักเป็นอาการที่รุนแรง เช่น เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด ตกขาวผิดปกติ ปวดหน่วงท้องน้อย
อาการมะเร็งปากมดลูกที่ควรสังเกต
อาการมะเร็งบริเวณปากมดลูกในระยะแรกอาจไม่แสดงอาการใด ๆ เลย แต่หากมีอาการแล้วมักเป็นอาการที่รุนแรง เช่น
- เลือดออกผิดปกติทางช่องคลอด
- เลือดออกกระปริดกระปรอยระหว่างมีประจำเดือน
- เลือดออกหลังมีเพศสัมพันธ์
- ประจำเดือนมาไม่ปกติ
- ประจำเดือนมานานขึ้น หรือ ประจำเดือนมามากผิดปกติ
- ตกขาวผิดปกติ
- ตกขาวปริมาณมากขึ้น
- ตกขาวมีกลิ่นเหม็น
- มีเลือดปน
- ปวดหน่วงท้องน้อยโดยไม่ทราบสาเหตุ
- มีอาการเจ็บหลังจากมีเพศสัมพันธ์
นอกจากอาการมะเร็งบริเวณปากมดลูกที่กล่าวมาแล้วข้างต้นแล้ว ผู้หญิงที่เป็นโรคมะเร็งปากมดลูกอาจมีอาการอื่น ๆ ร่วมด้วย เช่น
- ปัสสาวะหรืออุจจาระปนเลือด
- ปัสสาวะไม่ค่อยออก
- ปวดบวมบริเวณขาหนีบ
ซึ่งหากมีอาการที่ผิดปกติ ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาโดยเร็ว
สาเหตุของอาการมะเร็งปากมดลูก
สาเหตุของมะเร็งปากมดลูกเกิดจากการติดเชื้อเอชพีวี (Human Papillomavirus) ซึ่งเป็นเชื้อติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เชื้อเอชพีวีมีมากกว่า 100 สายพันธุ์ โดยสายพันธุ์บางสายพันธุ์สามารถทำให้เกิดมะเร็งปากมดลูกได้
ปัจจัยเสี่ยงของมะเร็งปากมดลูก
- การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย
- มีคู่นอนหลายคน
- การสูบบุหรี่
- การใช้ยาคุมกำเนิดแบบฮอร์โมน
- การได้รับสารเคมีบางชนิด
- ภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง
การรักษาอาการมะเร็งปากมดลูก
การรักษาอาการมะเร็งปากมดลูกขึ้นอยู่กับระยะของมะเร็ง โดยการรักษาในระยะเริ่มต้นอาจใช้วิธีการผ่าตัดหรือฉายรังสี แต่หากมะเร็งลุกลามอาจต้องรักษาด้วยวิธีเคมีบำบัด
การป้องกันมะเร็งปากมดลูก
- การฉีดวัคซีนป้องกันเชื้อเอชพีวี
- การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
- การหลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง
ความสำคัญของการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการค้นหามะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มต้น ซึ่งจะทำให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้น กระทรวงสาธารณสุขแนะนำให้ผู้หญิงไทยทุกคนเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุก 3 ปี
หากสังเกตพบอาการดังที่กล่าวมาข้างต้น ควรรีบไปพบแพทย์เพื่อตรวจวินิจฉัยและรักษาโดยเร็ว การตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูกเป็นประจำทุก 3 ปี จะช่วยให้สามารถตรวจพบมะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มต้นได้ ซึ่งจะทำให้การรักษามีประสิทธิภาพมากขึ้นและมีโอกาสหายขาดได้สูง