แผลเบาหวาน อาการเริ่มต้นที่คุณต้องรู้ ! ก่อนสายเกินไป

แผลเบาหวาน อาการเริ่มต้นมีอะไรบ้าง ?”

เบาหวานเป็นโรคเรื้อรังที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตประจำวันของผู้ป่วย โดยหนึ่งในภาวะแทรกซ้อนที่น่ากลัวที่สุดของโรคนี้คือ “แผลเบาหวาน” ซึ่งมักเกิดขึ้นที่เท้าและขา ทั้งนี้ แผลเหล่านี้หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที อาจนำไปสู่การติดเชื้อรุนแรง จนกระทั่งสูญเสียอวัยวะ หรือในกรณีร้ายแรงที่สุดอาจถึงขั้นเสียชีวิตได้

ด้วยเหตุนี้ การรู้จักและเข้าใจอาการเริ่มต้นของแผลเบาหวานจึงมีความสำคัญ บทความนี้จึงขอพาไปรู้จักว่าแผลเบาหวาน อาการเริ่มต้นที่ควรรู้ มีอะไรบ้าง มาดูกัน ข้างล่างนี้เลย

ทำไมคนเป็นเบาหวานถึงเป็นแผลง่าย ?

  • ระดับน้ำตาลในเลือดสูง : น้ำตาลในเลือดที่สูงเกินไปจะทำลายหลอดเลือดฝอย ทำให้เลือดไปเลี้ยงส่วนต่าง ๆ ของร่างกายไม่เพียงพอ รวมถึงบริเวณเท้าและขา ทำให้แผลหายช้า หรืออาจไม่หายเลย
  • ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ : เบาหวานทำให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานผิดปกติ ทำให้ร่างกายต่อสู้กับเชื้อโรคได้ยากขึ้น เมื่อเกิดแผล จึงมีโอกาสติดเชื้อสูง
  • ความรู้สึกเสื่อม : เส้นประสาทที่เท้าและขาเสื่อม ทำให้ผู้ป่วยรู้สึกเจ็บน้อยลง หรืออาจรู้สึกชา ทำให้ไม่รู้ตัวว่ามีแผล

แผลเบาหวาน อาการเริ่มต้นมีอะไรบ้าง ?

แผลเบาหวาน อาการเริ่มต้นมีอยู่หลายอันด้วยกัน โดยจะค่อย ๆ แสดงออกตามร่างกาย ดังนี้

  1. แผลเล็กๆ ไม่หาย : แผลขนาดเล็ก เช่น รอยถลอก รอยขีดข่วน หรือรอยแตกของผิวหนัง มักจะใช้เวลานานกว่าปกติในการหาย หรือในบางกรณีอาจไม่หายเลย ทั้งนี้เนื่องจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูงส่งผลกระทบต่อกระบวนการซ่อมแซมเนื้อเยื่อของร่างกาย ดังนั้น หากสังเกตเห็นแผลที่ไม่มีแนวโน้มจะหายภายในระยะเวลาปกติ ควรปรึกษาแพทย์โดยเร็ว
  2. ผิวหนังแห้งและแตก : ผิวหนังบริเวณเท้าและขาอาจมีลักษณะแห้งกร้าน แตกเป็นร่อง หรือมีรอยแดงผิดปกติ สาเหตุมาจากการที่เบาหวานส่งผลต่อระบบประสาทและการไหลเวียนของเลือด ทำให้ต่อมไขมันและต่อมเหงื่อทำงานผิดปกติ ส่งผลให้ผิวหนังขาดความชุ่มชื้นและเสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่าย
  3. มีขนร่วง : สังเกตได้จากการที่ขนบริเวณเท้าและขาเริ่มร่วงหรือบางลงอย่างผิดปกติ อาการนี้เกิดจากการที่เส้นเลือดฝอยที่หล่อเลี้ยงรากขนได้รับผลกระทบจากระดับน้ำตาลในเลือดที่สูง ทำให้การเจริญเติบโตของขนลดลง
  4. เล็บหนาและเปลี่ยนสี : เล็บเท้าอาจมีลักษณะหนาขึ้นผิดปกติ เปลี่ยนสี หรือมีรอยดำใต้เล็บ ซึ่งอาจเป็นสัญญาณของการติดเชื้อราหรือแบคทีเรีย อันเป็นผลมาจากระบบภูมิคุ้มกันที่อ่อนแอลงเนื่องจากเบาหวาน
  5. รู้สึกชาหรือเจ็บปวด : อาการชาหรือเจ็บปวดที่เท้าและขาเป็นสัญญาณของภาวะปลายประสาทเสื่อม ซึ่งเป็นภาวะแทรกซ้อนที่พบบ่อยในผู้ป่วยเบาหวาน อาการนี้อาจเริ่มจากความรู้สึกเสียวซ่าน ชา หรือปวดแสบปวดร้อน โดยเฉพาะในเวลากลางคืน
  6. บวม : เท้าหรือขามีอาการบวมผิดปกติ โดยอาจสังเกตได้จากรอยบุ๋มเมื่อกดบริเวณที่บวม อาการบวมนี้อาจเกิดจากการที่ไตทำงานผิดปกติ หรือการไหลเวียนของเลือดที่ไม่ดี ซึ่งเป็นผลมาจากภาวะเบาหวาน

แผลเบาหวาน อาการเริ่มต้นอาจสังเกตได้หลายอย่าง ซึ่งหากปล่อยไว้ ก็อาจกลายเป็นภาวะแทรกซ้อนที่ร้ายแรงของโรคเบาหวานได้ ทั้งนี้ การรู้จักอาการเริ่มต้นและการดูแลตนเองอย่างถูกวิธี จะช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดแผลและภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ อย่างไรก็ดี แนะนำให้ตรวจสุขภาพอย่างสม่ำเสมอ ก็จะช่วยให้สามารถควบคุมโรคเบาหวานและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น


Posted

in

by

Tags:

Comments

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *